บิ๊กอสังหาฯ ทวีต “รอช่วงเลวร้าย” ธปท.ชี้ยังไม่ถึงเวลารื้อเกณฑ์ LTV
“เศรษฐา ทวีสิน” บิ๊กแสนสิริ โพสต์ทวิตเตอร์ ตลาดอสังหาฯ ไม่ได้ดีอย่างที่คิด จัดโปรโมชันเพื่อเร่งขายเร่งโอน เพราะอยากได้เงินสดรับมือสถานการณ์เลวร้าย วอนรัฐช่วย ด้าน ธปท.ประเมินภาพสินเชื่อที่อยู่อาศัยไตรมาส 2 หลังโควิด–19 ยังดีขึ้น เกณฑ์ LTV ไม่เป็นอุปสรรคกู้เงินซื้อบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายของวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว : Srettha Thavisin @Thavisin โดยเนื้อหาระบุว่า “ถ้าใครบอกว่าตลาดอสังหาฯยังไปได้ คนนั้นพูดไม่จริงแน่นอน ทุกวันนี้แสนสิริยอดโอนสูงเป็นประวัติการณ์ไม่ใช่เพราะตลาดดี แต่เราจัดโปรโมชันเพื่อเร่งขายเร่งโอน เพราะอยากได้เงินสดในการรับมือ Worst Case Scenario (สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด)”
จากนั้นอีกไม่นาน นายเศรษฐาก็ได้โพสต์อีกหนึ่งข้อความต่อเนื่อง โดยมีเนื้อหาว่า เศรษฐกิจแย่ภาคอสังหาฯยิ่งแย่ รัฐบาลต้องช่วย เพราะแม้แสนสิริจะพอไปไหวเพราะตุนเงินสดไว้แล้ว 12,000 ล้าน แต่เราก็ไม่อยากเห็นรายใดรายนึง ไม่ว่าจะรายใหญ่หรือรายเล็กต้องล้มไป เพราะจะกระทบกันหมด
ด้านนางนวอร เดชสุวรรณ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ได้ติดตามและประเมินสถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดตั้งแต่ออกหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ มาตรการ loan-to-value ratio (LTV) เมื่อเดือน เม.ย.2562 และที่ผ่านมาได้มีการปรับหลักเกณฑ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดย ผ่อนปรนเกณฑ์ LTV แล้ว 2 ครั้ง ได้แก่ การผ่อนปรนเกณฑ์สำหรับผู้กู้ร่วม และการซื้อบ้านหลังแรกราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท สามารถกู้ได้เท่ากับราคาบ้านและยังสามารถกู้เพิ่มได้อีก 10% เพื่อใช้เป็นค่าตกแต่ง หรือซ่อมแซม ส่วนบ้านหลังที่สองก็กู้ได้ถึง 90% ซึ่งสอดคล้องกับหลักการของ ธปท. ที่ส่งเสริมให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง
“จากข้อมูลของ ธปท. พบว่าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในไตรมาส 2 ปีนี้ ยังขยายตัวที่ 4.4% สูงกว่าไตรมาสก่อน แม้จะอยู่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 สินเชื่อที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นการซื้อบ้านหลังแรก สะท้อนว่ามาตรการ LTV ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงสินเชื่อของผู้ซื้อบ้านและสถาบันการเงินยังมีการปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มเติม หากผู้กู้มีความสามารถในการผ่อนชำระ”
นางนวอร กล่าวต่อว่า การนำมาตรการ LTV มาใช้ในช่วงที่ผ่านมา ได้ช่วยรองรับผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์และระบบเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องจากช่วยชะลอความต้องการเทียมและปริมาณที่อยู่อาศัย ส่วนเกินก่อนเหตุการณ์ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ในช่วงต่อจากนี้สถานการณ์ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง และไม่รู้ว่าโควิด-19 จะจบลงเมื่อใด โดย ธปท. จะยังคงติดตามและประเมินสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องเพื่อดูแลภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่อไป
ขณะเดียวกัน ธปท.ยังได้ชี้แจงความเข้าใจผิดว่าในกรณีการซื้อขายทองคำ ซึ่งระบุว่า ภายในปีนี้จะไม่สามารถใช้เงินบาทซื้อทองคำได้อีกต่อไป นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำจะต้องซื้อขายทองคำเป็นเงินตราต่างประเทศเท่านั้น ธปท.ขอชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการปรับระบบการลงทุนในทองคำของ ธปท.มีเป้าหมายเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนที่สนใจซื้อขายทองเพื่อการลงทุน เช่น เทรดทองผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งนักลงทุนสามารถเลือกชำระเป็นเงินบาท หรือเงินตราต่างประเทศผ่านบัญชีเงินตราต่างประเทศของคนไทย (FCD) ได้ โดยไม่ได้มีการบังคับให้ต้องเลือกใช้สกุลเงินใดสกุลเงินหนึ่งในการซื้อทองคำ ประชาชนสามารถซื้อขายทองแท่งและทองรูปพรรณที่ร้านทองโดยใช้เงินบาทได้ตามปกติ.
ขอบคุณข้อมูล ไทยรัฐ